5 วิธีเก็บดอกไม้ให้สดไปนานๆ
การจะทำให้ดอกไม้สดที่ตกแต่งบ้านคงความสวยคู่บ้านคุณไปนานๆ ทุกขั้นตอนมีเคล็ดลับที่คุณอาจคิดไม่ถึง เริ่มตั้งแต่การสรรหาดอกไม้ การจัดดอกไม้ ไปจนถึงการหาที่ตั้งในบ้านคุณ ทุกอย่างล้วนมีผลต่อความคงทนของดอกไม้สดทั้งสิ้น
1 วิธีจัดดอกไม้สดแบบลดความเสียหาย
วิธีจัดดอกไม้สดถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่แค่เอาดอกไม้มาปักๆ ก็เป็นอันเสร็จ ดอกไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบาง จึงต้องทะนุถนอมเพื่อไม่ให้บอบช้ำ
#2 ตั้งดอกไม้ที่ไหน ให้อยู่ยงคงกระพัน
อย่างที่เรารู้กันดีว่าสภาพแวดล้อมมีผลต่อต้นไม้โดยตรง ยิ่งถ้าเป็นดอกไม้ที่ถูกตัดออกมา ยิ่งมีความทนทานน้อยกว่าต้นไม้อีก ความร้อนและความเย็นล้วนกระตุ้นให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา คุณจึงควรเลี่ยงที่ที่มีปัจจัยเหล่านี้
- ไม่วางแจกันดอกไม้ในที่ที่ได้รับแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง เพราะจะทำให้ดอกไม้สูญเสียน้ำ เช่น ริมหน้าต่าง ห้องครัว
- เลี่ยงการวางแจกันดอกไม้ใกล้เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือพัดลมดูดอากาศ เพราะลมจะเร่งการระเหยของน้ำ
- ไม่ตั้งแจกันดอกไม้ใกล้ทีวี ตู้เย็น และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ปล่อยความร้อนออกมา
#3 ผลไม้กับดอกไม้ สองเราไปด้วยกันไม่ได้
แม้จะดูสวยงามและเหมาะสมที่จะจัดแจกันดอกไม้พร้อมถาดผลไม้ไว้บนโต๊ะ แต่วิธีจัดดอกไม้สดแบบนี้ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วขึ้น
ผลไม้ที่กำลังสุกจะผลิตฮอร์โมนพืชในรูปของก๊าซที่เรียกว่าเอทิลีนออกมา เมื่อดอกไม้ได้รับฮอร์โมนนี้ก็จะเร่งให้ดอกไม้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีผลกับดอกไม้แต่ละชนิดแตกต่างกันไป เช่น ดอกคาร์เนชั่นจะเหี่ยว ดอกกล้วยไม้จะเปลี่ยนสี
ดังนั้น คุณจึงไม่ควรนำแจกันดอกไม้มาวางใกล้ผลไม้เพื่อยืดอายุไม่ให้ดอกไม้เหี่ยว โดยเฉพาะกล้วย แอปเปิ้ล มะม่วง และเมล่อน เพราะผลไม้เหล่านี้ผลิตเอทิลีนในปริมาณค่อนข้างสูง ผักก็มีการผลิตเอทีลีนด้วย อย่าง หัวหอม มะเขือเทศ นอกจากนี้ในควันบุหรี่ก็พบว่ามีเอทิลีนเช่นกัน
เชื่อหรือไม่ ถ้าคุณเติมวอดก้าสัก 2-3 หยดลงไปในน้ำที่แช่ดอกไม้ จะทำให้ดอกไม้ของคุณเหี่ยวช้าลง นี่ก็เพราะวอดก้าจะไปลดการสร้างฮอร์โมนเอทิลินที่เป็นตัวทำให้ดอกไม้เหี่ยว แต่ขอย้ำว่าอย่าใส่เยอะเกินไป เพราะดอกไม้ทนแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 8 ดีกรี ซึ่งวอดก้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ถึง 40 ดีกรี จึงต้องทำให้เจือจางมากๆ
#4 น้ำตาลและน้ำส้มสายชู คู่หูต่อชีวิตดอกไม้
เติมน้ำตาลและน้ำส้มสายชูใสในสัดส่วนที่เท่ากัน ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในภาชนะ น้ำตาลจะเพิ่มสารอาหารให้กับดอกไม้ เพราะดอกไม้ในแจกันไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้เอง จึงต้องอาศัยอาหารเสริม
น้ำส้มสายชูจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย รวมทั้งปรับสภาพความเป็นกรดด่างของน้ำให้ค่อนไปทางกรด ซึ่งทำให้การลำเลียงน้ำในดอกไม้ดีขึ้น ดอกไม้จึงรับน้ำและสารอาหารได้เร็วขึ้น
ทางเลือกอื่นๆ ของวิธีเก็บดอกไม้สดแทนการใช้น้ำตาลและน้ำส้มสายชู ได้แก่ น้ำอัดลมพวกมะนาวโซดา หรือเครื่องดื่มชูกำลัง หรืออาหารดอกไม้ที่ทำมาเพื่อการเติมในแจกันโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านดอกไม้
#5 บริการหลังการจัด สำคัญไม่แพ้กัน
ไม่ใช่แค่วิธีจัดดอกไม้สดเท่านั้นที่คุณควรใส่ใจเพื่อให้ดอกไม้อยู่กับคุณไปนานๆ แต่การดูแลหลังจากนั้นก็จำเป็นมาก โดยคุณต้องเปลี่ยนน้ำทุกวันหรือเมื่อเห็นว่าน้ำมีลักษณะขุ่นและเหนียว เพราะนั่นหมายถึงแบคทีเรียเริ่มเจริญเติบโตที่ก้านดอกไม้และในน้ำ
ทุก 2-3 วันที่คุณเปลี่ยนน้ำ คุณควรเล็มปลายก้านดอกไม้ โดยตัดในแนวเฉียง 45 องศาและทำการตัดในน้ำเหมือนตอนคุณจัดแจกันครั้งแรก เพื่อตัดเนื้อเยื่อที่ช้ำออกและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดน้ำด้วยก้านส่วนใหม่
หากคุณพบดอกไม้ที่เหี่ยวก่อนดอกไม้อื่นๆ ในแจกัน โดยเฉพาะถ้าแจกันของคุณมีดอกไม้หลายชนิดปะปนกัน ให้คุณรีบดึงดอกที่เหี่ยวออก เพราะดอกไม้นั้นจะปล่อยฮอร์โมนเอทิลีนทำให้ดอกอื่นๆ เหี่ยวตามไปด้วย รวมถึงลดการแย่งน้ำและสารอาหารกับดอกไม้ดอกอื่น